ใสแล้ว! น้ำจากคลองบางเทาไหลลงทะเล พรุ่งนี้ตรวจโรงแรม สถานประกอบการ หาต้นตอปล่อยน้ำเสีย

ใสแล้ว! น้ำจากคลองบางเทาไหลลงทะเล พรุ่งนี้ตรวจโรงแรม สถานประกอบการ หาต้นตอปล่อยน้ำเสีย

จากกรณีน้ำในคลองบางเทาเน่าเสียและไหลลงทะเลหน้าหาดบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จนส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้าน และนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ล่าสุดวันนี้ ( 13 พ.ค.) จากการตรวจสอบน้ำบริเวณปากคลองบางเทาที่ไหลลงทะเลหน้าหาดบางเทา พบว่าวันนี้สภาพน้ำที่ไหลลงคลองเป็นน้ำใส ไม่มีน้ำเน่าสีดำปะปนแต่อย่างใด รวมทั้งกลิ่นน้ำเน่าก็หานไป ทำให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำทะเลสีปกติ

นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล 

กล่าวว่า ขณะนี้สภาพน้ำในคลองบางเทาที่ไหลลงทะเลหาดบางเทาไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเน่าเสียไหลลงทะเลแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำใสคิดว่าน่าจะเกิดจากการขุดลอกตะกอนในคลองห่างจากจุดปากคลองประมาณ 300 –400เมตร รวมทั้งช่วงนี้มีฝนตกหนักทำให้น้ำในคลองมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เมื่อน้ำดีมากก็จะทำให้น้ำเสียลดน้อยลง

แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าวันนี้น้ำในคลองจะมีความใส และไม่มีกลิ่น แต่ก็ยังไม่วางใจ การดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำเนาเสียที่คลองบางเทาก็ยังคงทำอยู่ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมถึงทรายเพื่อปิดทางน้ำสำหรับสูบเข้าระบบบำบัดน้ำเสียแล้ว หากมีปัญหาน้ำเน่าน้ำดำก็จะดำเนินการทันที ส่วนการขุดลอกตะกอนที่บริเวณจุดดังตะกอนก็จะดำเดินการต่อ เพื่อสูบน้ำเน่าจากคลองเข้าสู่ระบบบำบัด

นายมาแอนกล่าวต่อไปว่า สำหรับต้นตอที่ทำให้เกิดน้ำเสียนั้นอย่างที่ทราบว่าเกิดจากคนที่ไม่ยอมต่อท่อน้ำทิ้งลงระบบบำบัด ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม พรุ่งนี้ ( 14 พ.ค.) ทาง อบต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงแรม สถานประกอบการ ร้านอาหาร อื่นๆ หาดพบว่าไม่ปฏิบัติตากฎระเบียบก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

แม่ “น้องอาม” ใจสลาย ลูกชายอายุ 13 ปีถูกฆ่าตายเพียงเพราะมองหน้า น้องอาร์มโดนฟัน – วันที่ 13 พ.ค. เป็นเรื่องเศร้าโศกของผู้เป็นแม่เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก “สตรีขยี้ใบ บุรุษไทยก่อฟืน” ได้โพสต์เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ “น้องอาม” ลูกชายวัย 13 ปี 10 เดือน 28 วันที่ถูกฆ่าตายด้วยอ้างว่าแค่มองหน้าฆาตกร ที่เกิดเหตุ ตรงบางปลาซอย12 เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ฆาตกรฟันน้องอามจนเสียชีวิต จนถึงขณะที่ฌาปนกิจศพแล้วก็ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้

เทกระจาด! กระบะเสียหลักพลิกคว่ำ ชนเสาไฟหัก ทุเรียนกระจายเต็มถนน วันนี้ (13 พ.ค.) เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสายชล เขต อ.สวี ได้รับแจ้งจาก ศูนย์สายชลชุมพร เกิดอุบัติเหตุรถกระบะบรรทุกทีเรียนเสียหลักพลิกคว่ำตะแคงลงข้างทาง บริเวณหน้าหมวดการทางสวี ถ.เอเชีย 41 ม.8 ต.วิสัยใต้ อ.สวี ขาล่องใต้ จึงได้ส่งกำลังเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ตอนครึ่งเสริมคอกเหล็กที่ด้านท้ายกระบะ อยู่ในสภาพนอนตะแคงข้าง ลักษณะชนกับเสาไฟส่องสว่าง ทำให้เสาไฟหักบริเวณโคน และยังพบทุเรียนและเข็งใส่ทุเรียนกระจัดกระจายอยู่ในคลองกลางถนน

โดยรถคันดังกล่าวมีผู้โดยสารมาด้วยกัน 3 คน บาดเจ็บกันเล็กน้อย 1 ใน 3 เป็นเพศชาย อายุ 45ปี มีอาการเจ็บที่สะโพก มีแผลถลอกที่สะโพก รู้สึกตัวดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ ณ.จุดเกิดเหตุ และนำตัวส่งโรงพยาบาลสวี ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

สลด! ผู้ใหญ่บ้านเมาใช้ลูกซองยิงเมียดับ ก็ยิงอกตัวเองตายตาม คาดเครียดเรื่องเงิน

วานนนี้เวลาประมาณ 18:00 น. เจ้าหน้าที่ สภ.ดม จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต จึงเร่งนำกำลังรุดไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 5 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์  ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่เกิดเหตุพบศพ นายชุมพล บรรณการ อายุ 50 ปี ซึ่งผู้ใหญ่บ้าน มีร่องรอยการถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย และศพ นางแนะ บรรณการ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นภรรยา สภาพถูกยิงเข้าที่บริเวณเบ้าตาขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด ข้างกันพบปืนลูกซองยาว พร้อมปลอกกระสุนตกอยู่ 2 ปลอก และยังพบขวดเหล้าขาวในบริเวณไกล้เคี้ยงจำนวณหลายขวด

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า  2 สามีภรรยาได้ดื่มเหล้าขาวตั้งแต่เช้า ก่อนที่ในช่วงเที่ยงผู้ใหญ่บ้านเกิดอาการเมา และได้ทะเลาะกับคนข้างบ้าน จนชาวบ้านต้องจับแยกออกจากกัน จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืน 1 นัด และมีคนเห็นนายชุมพล ยืนถือปืนอยู่ สักพักก็ได้ยินเสียงปืนอีก 1 นัด ชาวบ้านจึงพากันไปดู ปรากฏว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิตแล้ว โดยสาเหตุคาดเกิดความเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเงินไม่พอใช้ จึงทะเลาะกันและตัดสินใจยิงภรรยาเสียชีวิต ก่อนที่จะลั่นไกยิงตัวเองตายตาม

เด้งจริง! ผบ.ตร. ลงนามย้าย ‘บิ๊กโจ๊ก’ เข้าสำนักงานใหญ่ หลังจากที่มีกระแสข่าวเรื่องการถูกสั่งโยกย้ายให้เข้าไปทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของพลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ขาดซึ่งพยานที่เป็นหนังสือราชการจริงๆ กระทั่งล่าสุด  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีการลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 232/2562 เรื่องข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ โดยมีเนื้อหาระบุดังนี้

ไฟไหม้ลานจอดรถ บก.กองทัพบก เพลิงเผาวอด 5 คัน ไฟไหม้ลานจอดรถกองทัพบก – ช่วงบ่ายของวันที่ 5 เม.ย. เกิดเหตุไฟไหม้ลานจอดรถชั้น 7 บี กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้สารเคมีดับเพลิงอยู่ประมาณ 10 นาทีเพลิงจึงสงบ ตรวจสอบเบื้องต้นพบรถถูกเผาเสียหาย 5 คัน คาดว่าต้นเพลิงมาจากรถกระบะยี่ห้ออีซูซู หมายเลขทะเบียน 8 ฎ 8421 กรุงเทพมหานคร สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในตัวรถ ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากการวางเพลิงสร้างสถานการณ์ ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ